วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

- สูตรน้ำผักและผลไม้ / แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ล : Apple 
แอปเปิ้ล ได้ชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งผลไม้" (King of the fruit) มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Malus domestica Bokh. จัดเป็นไม้ผลเขตหนาว มีทั้งสีเขียว สีแดง สีเหลือง สีชมพู ฯลฯ ที่เห็นกันมากในท้องตลาดคือ เปลือกสีแดงเข้ม และเปลือกเป็นลาย สีอมส้ม สีเขียว แอปเปิ้ลมีสีสันน่ากิน เนื้อกรอบ รสหวาน มีกลิ่นหอม ควรเลือกแอปเปิ้ลที่สด ผิวไม่เหี่ยวช้ำหรือมีตำหนิเน่าเสีย และต้องไม่เคลือบแวกซ์ ก่อนทำต้องล้างทั้งเปลือกด้วยน้ำสบู่้อ่อนๆ หั่นเป็นเสี้ยวตามยาวของผล คว้านเมล็ดออก

คุณค่าทางอาหารและสรรพคุณ
แอปเปิ้ลอุดมไปด้วยเกลือแร่และวิตามินต่างๆ ทั้งวิตามิน เอ บี 1 บี 2 บี 6 ไบโอติน กรดโฟลิก กรดแพนโทเธอนิค เกลือแร่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมกกานีส  และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมัน สารอาหารเหล่านี้ มีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน โดยเฉพาะวิตามินซี และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบมากในแอปเปิ้ล จะช่วยป้องกันโรคหัวใจในผู้ที่รับประทานเป็นประจำ

แอปเปิ้ลยังช่วยควบคุมน้ำหนักเพราะมีแป้งและน้ำตาลถึง 75% ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลา ไม่เกิน 10 นาที ดังนั้นความอยากอาหารจึงลดลง ทั้งทำให้ไม่รู้สึกหงุดหงิดและอ่อนเพลียระหว่างรอเวลาอาหารมื้อใหญ่ แต่แอปเปิ้ลผลสดๆเท่านั้นที่มีสรรพคุณนี้

กินแอปเปิ้ลวันละ 2-3 ผลช่วยลดปริมาณคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด แต่จะได้ผลมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แอปเปิ้ลลดคลอเลสเตอรอลในผู้หญิงได้ดีกว่าผู้ชาย แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ต้องการควบคุมน้ำตาลในเลือด เมื่อเรากินอาหารเข้าไปอาหารแต่ละชนิดจะย่อยสลายและดูดซึมผ่านผนังกระเพาะลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะเพิ่มช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของอาหารนั้น เช่น ถ้ากินน้ำผึ้ง น้ำตาลในเลือดจะขึ้นทันที แต่สำหรับแอปเปิ้ลถึงจะมีน้ำตาลธรรมชาติในเนื้อแอปเปิ้ลมากแต่ก็ทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆเท่านั้น สำหรับคนที่เป็นเบาหวาน ไฟเบอร์จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย แอปเปิ้ลมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำสูงมาก

มาทำความรู้จักกับประโยชน์ของแอปเปิ้ล โดยแบ่งตามสีดังนี้
1. แอปเปิ้ลสีเหลือง มีสารเควอร์ซิตินที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก
2. แอปเปิ้ลสีแดง มีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด และยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวด้วย
3. แอปเปิ้ลสีเขียว มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะนอกจากจะได้รับน้ำตาลน้อยแล้ว ยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดีอีกด้วย 
4. แอปเปิ้ลสีชมพู มีสารฟิโนลิกมากที่สุดในบรรดาแอปเปิ้ล สารนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

(จำนวน 1 แก้ว)

- แอปเปิ้ลหั่นชิ้นใหญ่ทั้งเปลือก 4 ผล
- พาร์สเลย์ 1 ถ้วย
- ใบอ่อนผักโขม 1 ถ้วย
- น้ำแข็งบดละเอียด 1 ถ้วย

คั้นแอปเปิ้ล ผักโขม และพาร์สเลย์ด้วยเครื่องแยกกากแยกน้ำ ใส่น้ำที่คั้นทั้งหมดลงในโถปั่น ใส่น้ำแข็ง ปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด หากต้องการให้มีรสหวานก็เติมน้ำเชื่อมตามชอบ รินใส่แก้ว นำไปแช่ในตู้เย็นจนเย็นจัด แล้วดื่ม 


สูตรเชกแอปเปิ้ล
(จำนวน 1 แก้ว)

- แอปเปิ้ลหั่นชิ้นเล็กทั้งเปลือก (ผลละ 200 กรัม) 2 ผล
- เนื้อมะละกอหั่นชิ้นเล็ก 1/4 ถ้วย
- กล้วยหอมหั่นชิ้น (ผลละ 120 กรัม) 1/2 ผล
- น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา
- นมสดชนิดจืด 1/2 ถ้วย

ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด รินใส่แก้ว แล้วดื่ม



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น