วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

- เครื่องมือในการทำน้ำผักผลไม้

น้ำผักและผลไม้ที่ดีมีคุณประโยชน์สูงสุดต้องดื่มหลังการคั้นหรือปั่นสดๆแล้วไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพราะในน้ำผักผลไม้มีเอนไซม์ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับอากาศ ยิ่งทิ้งไว้นานเอนไซม์ก็จะลดน้อยลง คุณค่าอาหารก็จะสลายไปกับอากาศตามเวลาที่ทิ้งไว้นั่นเอง การทำน้ำผักและผลไม้มีหลายวิธี มีทั้งการตำด้วยครก การคั้น การต้ม และการปั่น


ปัจจุบันการทำน้ำคั้นต่างๆสะดวกมากขึ้น เพราะมีเครื่องคั้นสำเร็จรูปต่างๆออกมาจำหน่ายกันมากมายหลากหลายยี่ห้อ เรียกได้ว่าการทำเครื่องดื่มสมัยนี้สามารถทำได้รวดเร็ว ประหยัดเวลา แถมยังประหยัดแรงงานอีกด้วย

เครื่องคั้นน้ำผักและผลไม้
สามารถบีบคั้นเอาน้ำออกจากกากได้หมด เรียกว่า เครื่องคั้นแบบแยกกาก แยกน้ำ (Juicer) เพียงแต่ล้างผักและผลไม้ แล้วหั่นเป็นชิ้นพอประมาณ ใส่ลงไปในช่องคั้น เปิดสวิตช์ไฟฟ้า แล้วใช้ด้ามกดชิ้นผักผลไม้ให้แนบกับคมมีดในเครื่อง เครื่องจะรีดเราน้ำในผักผลไม้ออกมา ส่วนกากที่เหลือจะถูกแยกออกไปอีกทางหนึ่ง เราก็สามารถรินน้ำผักและผลไม้ใส่แก้วดื่มได้เลย

เครื่องปั่น
เป็นเีครื่องที่ปั่นนเอาทั้งเนื้อและน้ำเข้าด้วยกัน เครื่องปั่นเหมาะอย่างยิ่งกับผักและผลไม้ เช่น แคนตาลูป กล้วยหอม มะม่วง มะละกอ อะโวคาโด เป็นต้น

วิธีการต้ม 
เพื่อให้ได้กลิ่น รส ของผักและผลไม้ วิธีต้มจะใช้กับผักและผลไม้บางชนิด เช่น กระเจี๊ยบ ระกำ ลิ้นจี่ ตะไคร้ ขิง เป็นต้น ต้มโดยการใช้ไฟอ่อนๆ กลิ่นและรสของผักและผลไม้จะค่อยๆออกมา อีกทั้งสีของผักและผลไม้ก็ไม่เปลี่ยนอีกด้วย

การทำน้ำผักและผลไม้ในบางครั้งจะมีรสชาติเปรี้ยวหรือหวานต่างกันไป จึงจำเป็นต้องปรุงรสด้วยน้ำเชื่อมหรือเติมน้ำมะนาวและเกลือ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น